Wednesday, January 21, 2009

คำประกาศอิสรภาพ
Declaration of Independence

ณ สภาคองเกรส, 4 กรกฏาคม 1776
คำประกาศโดยฉันทามติแห่งสหรัฐอันประกอบด้วย 13 มลรัฐแห่งอเมริกา

ท่ามกลางสายธารประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ ในยามจำเป็นที่ประชาชนจำต้องละทิ้งความเป็นกลุ่มการเมืองที่หลากหลายของตัวเองเพื่อแสวงหาอิสรภาพและความเสมอภาคที่พวกเขาพึงมีตามหลักกฎหมายธรรมชาติเฉกเช่นอำนาจทั้งหลายที่พระเจ้าได้มอบให้แก่โลก และด้วยตระหนักรู้ถึงความคิดเห็นที่หลากหลายที่มีต่อมนุษยชาติทำให้พวกเขาเหล่านั้นจำต้องประกาศว่าเหตุร้ายแรงอันใดที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นต้องลุกขึ้นปลดแอกของตัวเอง

พวกเราจึงรับรองว่าสิ่งต่อไปนี้เป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ในตัว

ว่าคนทุกคนถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน

ว่าคนทุกคนได้รับสิทธิทั้งหลายจากพระเจ้าที่ไม่อาจพรากไปได้ซึ่งรวมถึง สิทธิในชีวิต สิทธิในอิสรภาพ และสิทธิในการแสวงหาความสุข

และเพื่อธำรงรักษาสิทธิเหล่านั้นจึงจัดตั้งรัฐบาลที่ประกอบด้วยประชาชนเพื่อใช้อำนาจปกครองอย่างเป็นธรรมโดยความยินยอมของผู้ใต้ปกครอง และเมื่อใดที่รัฐบาลไม่ว่าในรูปแบบใดกลายเป็นอุปสรรคทำลายเป้าประสงค์ดังกล่าว นั่นย่อมเป็นสิทธิของประชาชนที่จะเปลี่ยนแปลงหรือล้มล้างรัฐบาลนั้น เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่และวางรากฐานหลักการดังกล่าวขึ้นใหม่และจัดระเบียบอำนาจในรูปแบบตามที่จะเห็นสมควรว่าจะเป็นประโยชน์ได้มากที่สุดต่อความปลอดภัยและความสุขของประชาชน โดยมีหลักความสง่างามเป็นเงื่อนไขกำหนดว่ารัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมาอย่างยาวนานไม่ควรจะต้องถูกเปลี่ยนแปลงเพราะสาเหตุเพียงเล็กน้อยชั่วครั้งชั่วคราว เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาได้สอนเราแล้วว่ามนุษยชาติจะต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใดเพื่อแก้ไขสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น หากว่าความเลวร้ายที่มียังพอทำเนาก็ย่อมดีกว่าการล้มล้างรูปแบบการปกครองที่ถือปฏิบัติกันมายาวนาน แต่เมื่อใดที่มีการประพฤติมิชอบและการล่วงละเมิดสิทธิติดต่อกันยาวนานอันแสดงให้เห็นได้ว่ามีเป้าประสงค์ที่จะบั่นทอนการปกครองอันจะนำไปสู่การปกครองแบบเผด็จการอย่างสมบูรณ์ นั่นย่อมเป็นสิทธิและหน้าที่ของประชาชนที่จะกำจัดรัฐบาลเช่นนั้นและจัดให้มีผู้ปกครองใหม่เพื่อความมั่นคงของประชาชนในวันข้างหน้า

และที่ดินแดนแห่งนี้ได้อดทนอดกลั้นต่อความทุกข์ทรมานดังกล่าวแล้ว

และบัดนี้เป็นความจำเป็นคับขันแล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองเดิม

ที่ตลอดประวัติศาสต์ของกษัตริย์องค์ปัจจุบันแห่งบริเตนใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ของความเจ็บปวดและการล่วงละเมิดครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งหมดมีเป้าประสงค์เพื่อจัดตั้งระบอบเผด็จการอย่างสมบูรณ์เหนือดินแดนนี้ และเพื่อพิสูจน์ความจริงข้อนี้จึงได้เปิดเผยข้อเท็จจริงต่อไปนี้ให้โลกได้รับรู้


พระองค์ได้ปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบเพื่อออกกฎหมาย ทั้งที่เป็นประโยชน์และความจำเป็นของส่วนรวม

พระองค์ได้ห้ามไม่ให้ผู้ว่าการรัฐของพระองค์ผ่านกฎหมายที่มีความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วน แต่ให้ระงับเอาไว้จนกว่าพระองค์จะให้ความเห็นชอบ และไม่เคยสนใจจะพิจารณากฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใด

พระองค์ได้ปฎิเสธไม่ให้ความเห็นชอบกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวกับความเป็นอยู่อาศัยในเขตเมืองใหญ่ เว้นแต่ประชาชนเหล่านั้นจะสละสิทธิการมีตัวแทนในสภา อันเป็นสิทธิที่ประเมินค่ามิได้ของประชาชนแต่เป็นสิทธิที่น่าหวั่นกลัวของพวกทรราชย์เท่านั้น

พระองค์ได้เรียกประชุมสภา ณ สถานที่อันไม่ปกติ ไม่สะดวกสบาย และห่างไกลจากที่เก็บบันทึกของรัฐการ เพื่อเป้าประสงค์ที่จะบั่นทอนประชาชนให้ยอมตามความต้องการของพระองค์

พระองค์ได้ยุบสภาครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อยืนยันเป้าประสงค์อย่างแข็งขันที่จะล่วงละเมิดสิทธิของประชาชน

พระองค์ได้ปฏิเสธมาตลอดที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายหลังจากการยุบสภา ทั้งที่อำนาจนิติบัญญัติที่ยังคงอยู่ได้กลับมาสู่มือของประชาชนและพร้อมให้ใช้สิทธินั้นได้ ทำให้มลรัฐทั้งหลายต้องตกอยู่ในภยันตรายจากการรุกรานภายนอกและความวุ่นวายภายใน

พระองค์ได้จงใจขัดขวางไม่ให้มีการเพิ่มประชากรในมลรัฐต่างๆ ด้วยการขัดขวางการออกกฎหมายให้สัญชาติแก่คนต่างด้าว ปฏิเสธไม่ผ่านกฎหมายอื่นๆที่ส่งเสริมการอพยพเข้าเมือง และเพิ่มข้อกำหนดเงื่อนไขการจัดสรรที่ดินใหม่

พระองค์ได้ขัดขวางระบบการบริหารงานยุติธรรมด้วยการปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบต่อกฎหมายจัดตั้งอำนาจตุลาการ

พระองค์ได้ทำให้ผู้พิพากษาต้องขึ้นตรงต่อพระองค์แต่เพียงผู้เดียวเพียงเพื่อที่จะรักษา ตำแหน่ง และเงินเดือนของเขาเอาไว้

พระองค์ได้จัดตั้งสำนักงานใหม่ต่างๆหลายแห่งและส่งเจ้าหน้าที่จำนวนมากมาที่นี่เพื่อบ่อนทำลายประชาชนของเราและหากินตามความต้องการของเขา

พระองค์ได้คงกองทัพทั้งหลายเอาไว้กับเราแม้ในยามสงบโดยปราศจากความยินยอมจากสภาของเรา

พระองค์ได้กำหนดให้กองทัพเป็นอิสระและอยู่เหนืออำนาจของประชาชน

พระองค์ได้ร่วมมือกับคนอื่นๆเพื่อกำหนดให้เราอยู่ใต้เขตอำนาจที่แปลกแยกไปจากธรรมนูญของเรา และไม่รับรองกฎหมายของเรา แต่ให้ความเห็นชอบแก่กฎหมายของพวกพระองค์ที่แสร้งว่ามาจากการนิติบัญญัติ ทั้งนี้:

เพื่อวางกำลังกองทัพขนาดใหญ่ไว้อยู่กับเรา
เพื่อปกป้องพวกของพระองค์จากการพิจารณาคดีและการลงโทษฐานฆาตกรที่พวกของพระองค์อาจกระทำต่อประชาชนของมลรัฐ
เพื่อตัดขาดการค้าของเรากับโลกภายนอกส่วนอื่นๆ
เพื่อบังคับเก็บภาษีโดยปราศจากความยินยอม
เพื่อตัดโอกาสเราในหลายกรณีจากการพิจารณาคดีโดยคณะลูกขุน
เพื่อนำส่งเราข้ามทะเลไปอังกฤษเพื่อไต่สวนหาความผิดที่ไม่เป็นความจริง
เพื่อล้มล้างระบบเสรีของกฎหมายอังกฤษในดินแดนข้างเคียง และจัดตั้งรัฐบาลของตนเพื่อขยายอาณาเขตเพื่อแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างและแนวทางที่เหมาะสมที่จะใช้กฎเบ็ดเสร็จอย่างเดียวกันกับอาณานิคมที่นี้
เพื่อขจัดกฎบัตรของเรา ล้มล้างกฎหมายอันทรงคุณค่าของเรา และเปลี่ยนแปลงรากฐานรูปแบบการปกครองของเรา
เพื่อยังยั้งระบบนิติบัญญัติของเราเอง และประกาศอำนาจนิติบัญญัติของเขาที่จะออกกฎหมายให้เราในทุกกรณี

พระองค์ได้สละอำนาจปกครอง ณ ดินแดนแห่งนี้ด้วยการประกาศให้พวกเราอยู่นอกอารักขาและประกาศสงครามต่อพวกเรา

พระองค์ได้แย่งชิงทะเลของเรา ถล่มชายฝั่งของเรา เผาบ้านเมืองของเรา และทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนของเรา

พระองค์กำลังส่งกองทัพทหารรับจ้างต่างชาติขนาดใหญ่เพื่อนำมาซึ่งความตาย ความสูญเสีย และระบอบเผด็จการ ซึ่งได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้วจากสถานการณ์ที่โหดร้ายและการทรยศที่ไม่มีเสมอเหมือนแม้ในยามป่าเถื่อนที่สุด โดยไม่มีความน่าเลื่อมใสใดๆของประมุขแห่งประเทศอารยะหลงเหลืออยู่

พระองค์ได้บังคับให้เพื่อนประชาชนของเราต้องเป็นแรงงานบนเรือในทะเลหลวงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในกองกำลังที่ต่อต้านประเทศของตัวเอง ต้องกลายเป็นผู้สำเร็จโทษเพื่อนของตัวเองและเพื่อนร่วมศาสนาเดียวกัน และต้องยอมจำนนต่อพระองค์ด้วยมือของตัวเอง

พระองค์ได้ยุยงให้เกิดการต่อต้านระหว่างพวกเรากันเอง และจงใจให้มีผู้อยู่อาศัยที่ชายแดนของเรา ซึ่งก็คือพวกอินเดียนที่เป็นอนารยชนและไร้ความปรานี อันเป็นการบ่อนทำลายที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้แก่ ทุกเพศ ทุกวัย และทุกสภาพ

ในทุกๆขั้นตอนของการกดขี่เหล่านี้ เราได้ร้องขอให้มีการแก้ไขเยียวยาที่เป็นไปได้อย่างต่ำที่สุดตลอดมา ข้อร้องขอของเราครั้งแล้วครั้งเล่าได้รับเพียงการตอบกลับด้วยความเสียหายซ้ำแล้วซ้ำอีก กษัตริย์ที่มีพฤติกรรมเฉกทรราชย์เช่นนี้ไม่สมควรจะปกครองเสรีชน

ทั้งเราก็ไม่รอคอยความใยดีจากเพื่อนชาวบริติชอีกต่อไป เพราะพวกเราได้เตือนพวกเขามาตลอดแล้วเกี่ยวกับความพยายามของสภาของเขาที่จะขยายเขตอำนาจที่มิชอบเหนือพวกเรา พวกเราได้ย้ำเตือนพวกเขาแล้วเกี่ยวกับสถานการณ์ของการย้ายถิ่นและตั้งรกราก ณ ที่ดินแดนนี้ พวกเราได้อุทธรณ์ต่อความยุติธรรมและเมตตาธรรมของพวกเขาแล้วและได้วิงวอนให้เห็นแก่ความสัมพันธ์ของสายเลือดเดียวกันเพื่อให้ยุติการกดขี่เหล่านี้ซึ่งจะขัดขวางความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่พวกเขาก็ได้เพิกเฉยต่อเสียงของความยุติธรรมและเสียงจากสายเลือดเดียวกัน พวกเราจึงจำต้องยอมรับต่อความจำเป็นคับขันและประกาศอิสรภาพและถือว่าพวกเขาเป็นเสมือนเพื่อนร่วมมนุษยชาติ เสมือนศัตรูยามสงคราม และเสมือนมิตรยามสงบ

ดังนี้แล้วพวกเราเหล่าตัวแทนของสหรัฐอเมริกาได้มารวมตัวกัน ณ สภาคองเกรส เพื่ออุทธรณ์ต่อศาลยุติธรรมสูงสุดแห่งโลกเพื่อแสดงความถูกต้องแห่งเจตนารมณ์ของเราในนามและโดยอำนาจของประชาชนที่ดีแห่งอาณานิคมนี้ จึงเผยแพร่และประกาศอย่างเด็ดเดี่ยวมั่นคงว่า อาณานิคมสหรัฐแห่งนี้เป็นและโดยสิทธิที่ควรจะเป็นอิสระและเสรีจากความจงรักภักดีทั้งปวงที่เคยมีต่อราชบัลลังก์บริติช ความสัมพันธ์ทางการเมืองทั้งปวงระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัฐแห่งบริเตนใหญ่เป็นและควรจะเป็นสิ่งที่สิ้นสุดลงอย่างสิ้นเชิง และในฐานะที่เป็นสหรัฐที่อิสระและเสรีจึงมีอำนาจเต็มที่จะ เข้าสู่สงคราม ทำความตกลงสันติภาพ เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร เจรจาการค้า และดำเนินการอื่นใดเฉกเช่นรัฐอิสระพึงมีสิทธิทำได้ และเพื่อสนับสนุนคำประกาศนี้ด้วยความหนักแน่นมั่นคงสูงสุดภายใต้ความคุ้มครองของพระเจ้า พวกเราจึงให้คำปฏิญญาณร่วมกันด้วย ชีวิตของเรา อนาคตของเรา และเกียรติอันสูงสุดของเรา